จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านของผู้สูงอายุ มีตัวเลขที่น่าสนใจระบุว่า ทุก ๆ ปีมีผู้สูงอายุราว 1 ใน 3
รายเคยมีประสบการณ์การลื่นล้มและ 25% ในกลุ่มนี้เคยผ่านเหตุการณ์ที่ว่ามามากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งความจริงแล้ว นอกจากพื้นลื่น ๆ ในห้องน้ำ ยังมีสาเหตุมากมายที่ประกอบกันจนทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจนบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายต่าง ๆ ของสายตา ภาวะกระดูกพรุน ข้อเสื่อม แขนขาอ่อนแรง
เพราะในผู้สูงอายุนั้น แม้แต่การอาบน้ำยังส่งผลต่อร่างกายได้หลายรูปแบบ เช่น การอาบน้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้เลือดสูบฉีดมากกว่าปกติ ซึ่งผู้สูงอายุที่ผนังหลอดเลือดแข็งขึ้นตามวัยอยู่แล้วนั้นหัวใจจึงทำงานหนักกว่าปกติ ขณะเดียวกันการอาบน้ำที่เย็นจนเกินไปนั้นในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม อาการหนาวสั่นที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจทำงานหนัก และเมื่อหัวใจทำงานหนักมากเกินไปนั้น ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุลื่นหกล้มในห้องน้ำอยู่บ่อยครั้ง สอดคล้องกับข้อมูลจากสถาบันสถิติแห่งชาติเมื่อปี 2557 ที่ระบุว่า การลื่นล้มในผู้สูงอายุเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับสอง รองจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน
อุณหภูมิน้ำที่ใช้อาบควรอยู่ในระดับ 21 -27 องศาเซลเซียสจะเหมาะสมที่สุด ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เย็นสบาย และเป็นผลดีต่อระบบหายใจ และหากต้องการอาบน้ำอุ่นควรควบคุมให้ไม่เกินกว่า 38 – 40 องศาเซลเซียสและไม่ควรอาบนานเกิน 10 – 15 นาทีเพราะจะทำให้ผิวแห้งและหัวใจทำงานหนัก ทางที่ดีควรอาบจากล่างขึ้นบน โดยเริ่มที่เท้าไปยังศีรษะเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิ รวมถึงการเว้นระยะห่างหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานอย่างเต็มที่เสียก่อน
สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ การปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ในบ้านให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างการปรับพื้นให้เหมาะสมไม่เรียบหรือลื่นมากจนเกินไปในทุก ๆ พื้นที่ ติดตั้งไฟส่องสว่างให้ทั่วถึงพร้อมกับสวิตช์ที่มีขนาดใหญ่พอในการมองเห็นและอยู่ในระดับที่เอื้อมถึงคือสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 45 เซนติเมตรและไม่เกิน 90 เซนติเมตรประตูเปิดปิดที่แข็งแรงมีน้ำหนักเบาและบานพับชั้นดี ตลอดจนราวจับประคองตัวขณะเดินซึ่งควรจะมีให้ทั่วถึงทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ บันได เป็นต้น
ส่วนผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็น อย่าลืมว่าแม้รถเข็นชั้นดีก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั่วหากไม่มีทางลาดเตรียมไว้ในกรณีที่อย่างออกไปสูดอากาศนอกตัวบ้าน รวมถึงเตียงนอนที่มีด้านยาวไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตรและควรสูงไม่เกิน 40 เซนติเมตร เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งบนรถเข็นมาบนเตียงนอนได้สะดวก
ด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่ผู้สูงอายุมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การวางแผนเตรียมตัวให้พร้อมของลูกหลานในการประคับประคองดูแลจิตใจของผู้สูงอายุไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพร่างกาย และทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ศูนย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินและรถพยาบาล โรงพยาบาลพญาไท 3 OPD ชั้น 1 พร้อมให้บริการและช่วยเหลือฉุกเฉินทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง