โลกใบใหม่ที่รอคอย
คุณพ่อ คุณแม่ พยายามค้นหาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากรพ.ต่าง ๆ เพื่อพาไปรับการรักษา และในที่สุดก็ได้พบกับ ผศ.นพ. นันตสรณ์ สิญจน์บุณยะกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับปวด เมื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด คุณหมอจึงระบุว่าอาการที่เราเป็นนั้น คือ โรค CRPS : Complex Regional Pain Syndrome เป็นกลุ่มอาการเจ็บปวดเฉพาะที่แบบซับซ้อน เป็นครั้งแรกจากตลอดเวลาหลายเดือนที่ทราบว่าตนเองเป็นโรคอะไร
นอกจากนี้คุณหมอได้แนะนำแนวทางการรักษาในขั้นต่อไปอย่างละเอียด ขณะเดียวกันก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องนอนรักษาตัวในรพ. แห่งนั้น แต่ด้วยยามอร์ฟีนไม่ส่งผลดีกับโรคที่เป็น คุณหมอจึงพิจารณาว่าควรเลิกใช้ เพราะอาจส่งผลให้อาการทรุดลง ได้ จึงเขียนเอกสารแจ้งกับรพ.ที่เรานอนรักษาตัวถึงเหตุผลที่ควรงดมอร์ฟีน และหลังจากนั้นจึงกลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน
ผศ.นพ. นันตสรณ์ ได้นัดไปทดลองติดเครื่องกระตุ้นระบบประสาทไขสันหลังด้วยคลื่นไฟฟ้า Spinal Cord Spinal Cord Stimulator เพราะหากทดลองใช้เครื่องแล้วอาการดีขึ้นก็สามารถรักษาด้วยวิธีนี้โดยการฝังเครื่องไว้ภายในร่างกาย
การทดลองติดเครื่อง Spinal Cord Stimulator ต้องนอนรพ.ประมาณ 2-3 วัน เพราะต้องทำการผ่าตัดวางสายกระตุ้นระบบประสาทไว้ภายในร่างกายไปยังประสาทไขสันหลัง โดยที่เครื่องอยู่ภายนอกร่างกาย ซึ่งจะทำการติดเครื่องทดสอบนี้ 2 สัปดาห์ และนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ดิฉันและครอบครัวได้ดีใจแบบสุด ๆ กับโอกาสที่จะกลับมาในชีวิตอีกครั้ง สามารถใช้ชีวิตเช่นคนทั่วไป มันเสมือนมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับเราเลย เพราะไม่เพียงไม่ปวด แต่สามารถเดินได้ด้วย (ยิ้มอย่างมีความสุข) แล้วจะไม่ดีใจได้อย่างไร
ตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา จากคนทำงานที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่อยู่ ๆ กลับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พ่อแม่ต้องดูแลทุกอย่าง มันเศร้ามากนะคะ เพราะไม่ใช่แค่ความทรมาน ความเสียใจจากอาการของโรคที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่มันคือความทุกข์ที่สงสารพ่อแม่ที่ต้องมาทุกข์ไปกับเรา ต้องทำทุกอย่างให้กับเรา แต่พอทดลองติดเครื่อง Spinal Cord Stimulator ทุกอย่างกลับมลายหายไป การรักษาของคุณหมอจึงเป็นที่สุด ณ ขณะนั้น”
เมื่อครบ 2 สัปดาห์ ถึงเวลาถอดอุปกรณ์ Spinal Cord Stimulator พร้อมนัดวันใส่อุปกรณ์จริงกับ ผศ.นพ. นันตสรณ์ ณ ศูนย์ระงับปวด รพ.พญาไท 3 ในอีก 45 วัน ข้างหน้า และแน่นอนว่า 45 วันนี้ อาการต่าง ๆ ก็กลับมาฉายซ้ำในระดับที่น้อยกว่าเดิม ทั้งยังพอเดินได้ ไม่ปวดมากเท่าเดิม ที่ยังคงมี คือ เท้าบวม และเท้าเปลี่ยนสี
8 มิถุนายน 62 วันที่ต้องผ่าตัดใส่เครื่อง Spinal Cord Stimulator โดยฝั่งเครื่องไว้ในชั้นไขมันด้านข้างลำตัว และวางสายใน….ไขสันหลัง ทั้งเราสามารถควบคุมเครื่องได้เอง ถ้าถามว่ากลัวการผ่าตัดไหม กลัวค่ะ แต่เมื่อเรารู้แล้วว่าเครื่องนี้มันช่วยเราได้จริงจากการทดลอง ดังนั้นการผ่าตัดจริงย่อมช่วยเปลี่ยนชีวิตเราให้กลับมาเป็นชนิกา อู่สุวรรณ คนเดิม จึงพร้อมเข้าผ่าตัดด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
ความสำเร็จ
ณ วันที่เราคุยกันนี้ เพิ่งผ่าตัดได้เพียง 7 วัน นับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะสามารถเดินได้ ไม่มีความปวดเกิดขึ้นเลย เท้าไม่บวม ไม่แสบร้อน จะมีเพียงอาการเจ็บแผลผ่าตัดบ้าง แต่ระหว่างนี้คุณหมอให้ทำกายภาพบำบัดตามแนวทางที่วางไว้ และตรวจติดตามผลกับคุณหมออย่างใกล้ชิด
ท้ายที่สุดของความสำเร็จที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณ ผศ.นพ. นันตสรณ์ สิญจน์บุณยะกุล เป็นอย่างมากที่ช่วยรักษาให้จนหายดีและสามารถกลับมาเดินได้ เสมือนได้กลับมามีชีวิตที่สมบูรณ์อีกครั้ง (น้ำตาคลอ) ขณะเดียวกันต้องขอบคุณโรงพยาบาลพญาไท 3 ที่มีศูนย์ระงับปวด ศูนย์เฉพาะทาง เพราะนี่คือสถานที่ ๆ จะช่วยให้คนที่ทุกข์ทรมานจากความปวดได้มีโอกาสรับการรักษาอย่างถูกต้อง และเหมาะสม
อยากจะบอกทุกคนที่กำลังมองหาการรักษาใด ๆ ก็ตาม ให้รักษากับศูนย์เฉพาะทางนะคะ เพราะหากมองย้อนกลับไป ถ้ามีโอกาสพบกับศูนย์ระงับปวดตั้งแต่แรก คงไม่ต้องทรมานและเสียโอกาสในด้านต่างๆ ไปมากเช่นที่ผ่านมา ฉะนั้น ขอเพียงมีความหวัง กำลังใจ และเลือกรักษาอย่างถูกต้องกับแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์เฉพาะทาง ในรพ.ที่มีความพร้อม คำว่า “หายป่วย” ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
—
ผศ.นพ. นันตสรณ์ สิญจน์บุณยะกุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับปวด รพ.พญาไท 3