เจาะลึกข้อมูลเทคนิค ปลูกผม ผมร่วง ศีรษะล้าน ผมบางแก้ได้มากน้อยแค่ไหน ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ ปลูกผมไม่มีรอยแผลและเจ็บน้อยที่สุดจริงไหม ที่นี่มีคำตอบ
FUE ปลูกผมทดแทน หมดปัญหาศีรษะล้าน เจ็บน้อยที่สุด ไม่ต้องโกนผม ไม่มีรอยแผลเป็น ใครที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ศีรษะล้าน จนรู้สึกกังวลใจ และเสียความมั่นใจ เพราะเส้นผมสามารถช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพภายนอกได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขศีรษะล้าน “การปลูกผม” เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเห็นผล โดยเฉพาะการปลูกผม FUE ที่กำลังเป็นนิยม และถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก จะสามารถช่วยแก้ปัญหาศีรษะล้านได้มากน้องแค่ไหน มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้
สาเหตุปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน
ก่อนที่จะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกับการปลูกผม อยากให้ทุกคนรู้สาเหตุของปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
สาเหตุปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน
- กรรมพันธุ์ จากสถิติพบว่าร้อยละ 90
- ปัจจัยภายนอก เช่น ความเครียด ขาดสารอาหารบางชนิด
- เกิดจากผลข้างเคียงจากโรคอื่น ๆ พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่หายจากจาการติดเชื้อโควิด-19 ระยะ 2-3 เดือนอาจพบภาวะผมร่วงเฉียบพลัน รวมถึงผู้ป่วยโรค SLE, ไทรอยด์เป็นพิษ
สำหรับแนวทางการรักษาแต่ละสาเหตุแพทย์จะวินิจฉัยเป็นรายบุคคล โดยสามารถรักษาได้ทั้งการใช้ยา การใช้เลเซอร์ช่วย และที่นิยมที่สุดคือการผ่าตัดปลูกผม
ปลูกผม FUE คืออะไร?
การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คือ วิธีการปลูกผมถาวรแบบหนึ่ง โดยใช้การปลูกถ่ายเซลล์รากผมของคนไข้เอง ย้ายลงไปในพื้นที่ที่ต้องการ เช่น บริเวณที่ผมบาง ผมร่วง หลังการปลูกถ่ายผมจะงอกแล้วจะไม่มีการหลุดร่วงซ้ำอีก เป็นการผ่าตัดโดยที่เกิดแผลน้อยที่สุด เล็กที่สุด ด้วยการใช้อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ เจาะผมจากทางด้านหลังมาปลูกทางด้านหน้า โดยไม่มีแผลผ่าตัดที่เป็นเส้นหรือรอยยาวให้เห็น ซึ่งวิธีการปลูกผมเทคนิคนี้ ยังจะมีเทคนิคย่อย ๆ ประกอบการผ่าตัด เช่น การทำโดยไม่ต้องโกนผม หรือ การปลูกผมยาว สามารถย้ายผมยาวมาปลูกได้เลย หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
FUE ผ่าตัดปลูกผมทดแทน ไม่ต้องโกน
การปลูกผม FUE ช่วยแก้ปัญหาใด เหมาะกับใครบ้าง
- แก้ปัญหาศีรษะล้าน ศีรษะเถิก
- แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง
- แก้ไขแนวผมที่อาจสูงเกินไป
- แก้ปัญหาผมบางจากการที่เซลล์รากผมเสื่อมสภาพ
การปลูกผม FUE ยังนิยมนำมาใช้ในการเสริมความงาม เช่น การสร้างกรอบหน้าด้วยการสร้างแนวผมใหม่ โดยเฉพาะในกรณีคนไข้ผู้หญิงที่มีผมด้านหน้าศีรษะเถิกไปมาก มีลักษณะคล้ายผู้ชาย ทำให้เสียความมั่นใจ หลังทำจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียว ดูหวานขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิคนี้ปลูกคิ้วเสริมโหงเฮ้ง ในคนที่คิ้วบาง หรือคิ้วมีรอยแผลเป็น หรือย้ายขนส่วนอื่น ๆ มาปลูกผมได้เหมือนกัน เช่น คนไข้ผู้ชายที่มีหนวด เคลา หรือขนหน้าอก มาก ๆ ก็สามารถย้ายมาปลูกผมได้เช่นกัน
ข้อควรรู้ : คนปกติทั่วไปผมจะมีร่วงต่อวันน้อยกว่า 70 เส้น ถ้าเมื่อใดที่ผมร่วงมากว่า 70 เส้นถือว่าเริ่มผิดปกติ มีปัญหาเส้นบาง ร่วง และเสี่ยงศีรษะล้านในอนาคตได้
ขั้นตอนการปลูกผม FUE
- หลังจากที่แพทย์ออกแบบ และวาดแนวผมที่ต้องการปลูก ร่วมกับคนไข้แล้ว ในการผ่าตัดปลูกผมโดยทั่วไปจะใช้ยาชาชนิดฉีดเฉพาะที่ แต่ในเคนไข้ที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ ทางทีมแพทย์จะทำงานร่วมกับแพทย์วิสัญญี ให้เข้ามาดูแลคนไข้เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทำให้การผ่าตัดปลูกผม FUE คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณพผ่าตัด
- เริ่มการผ่าตัดเจาะย้ายเส้นผม ปริมาณตามความเหมาะสมในแต่ละเคส มีการควบคุมอุณภูมิ และใช้เทคนิคเฉพาะเแลรากผมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
- ในส่วนของขั้นตอนการปลูก แพทย์จะเจาะรูในตำแหน่งที่ต้องการปลูก กำหนดความหนาแน่นตำแหน่งและทิศทางของแนวผมให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยการปลูกผม FUE ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 4-8 ชั่วโมง หรือ มากกว่านั้นขึ้นอยู่จำนวนรากผมที่นำมาใช้
- หลังการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้เลย
ปลูกผม FUE เมื่อไหร่เห็นผล?
การปลูกผม FUE ระยะการเห็นผลแต่ละคนแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ในเคสที่เลือกการปลูกผมยาว สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ส่วนเคสที่ย้ายปลูกรากผม ผมจะค่อย ๆ ร่วงและงอกใหม่จนเป็นปกติในระยะเวลา 6 เดือน – 1 ปี โดยผมที่งอกใหม่ จะไม่หลุดร่วงอีก
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกผม
- ปรึกษาแพทย์ถึงความกังวล และความต้องการของตนเอง เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว หรือจำเป็นต้องทานยาเป็นประจำ
- ก่อนทำการผ่าตัดควรงดรับประทานยาหรือกลุ่มอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้อย 7 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด 48 ชั่วโมง
- พักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- งดดื่มชาและกาแฟก่อนการผ่าตัด
- ควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันผ่าตัด และไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากมีการใช้ยาชา และยาช่วยผ่อนคลาย ในระหว่างผ่าตัด จึงอาจทำให้มีอาการสะลึมสะลือได้เมื่อผ่าตัดเสร็จ
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดปลูกผม
หลังจากปลูกผมในช่วง 5-7 วันแรกควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี โดยห้ามแกะ เกา ถู บริเวรหนังศีรษะ
ในช่วงแรกหลังจากการปลูกผม FUE บริเวณหนังศีรษะจะบอบบางและเป็นสะเก็ดแผล การแกะ เกา ถู บริเวณที่ปลูกผม จะทำให้เซลล์ที่ปลูกถ่ายลงไปหลุดออก ส่งผลในบริเวณที่ปลูกผม ผมไม่ขึ้นมาอย่างที่ควรเป็น
โดยหลัง 6 เดือนขึ้นไป เมื่อผมงอกใหม่ดีแล้ว คนไข้สามารถตัด ย้อม ทำสี ทำผมทรงไหนก็ได้ เพราะเป็นผมของคนไข้เอง และสามารถเล่นกีฬาได้ทุกชนิด
คำถามที่พบบ่อย
ปลูกผม FUE เจ็บไไหม ?
- สำหรับใครที่กลัวเจ็บ ปลูกผม FUE ในขั้นตอนการผ่าตัด มีการใช้ยาชาและยานอนหลับช่วยผ่อนคลายคนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ
ปลูกผม FUE ไม่มีรอยแผลจริงไหม ?
- การปลูกผม FUE เป็นใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายสว่านปลายแหลมเจาะเส้นผมบนหนังศีรษะ รอยแผลมีขนาดเล็ก ๆ มาก หลังการรักษาและแผลหาย จะมองไม่เห็นรอยแผล คนไข้สามารถแสกผม หรือคาดผมได้โดยไม่เห็นรอยแผล
ปลูกผม FUE ที่ไหนดี ?
- ปลูกผม FUE จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ แพทย์จำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถ และความชำนาญในเรื่องการปลูกผม โดยที่ แฮร์เซนเตอร์ ศูนย์ดูแลรักษาเส้นผลและหนังศีรษะ โรงพยาบาลพญาไท 3 มีแพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด และ ยังมี 15 โปรแกรมการรักษาให้เลือก มีเทคนิคการผ่าตัดแบบเจ็บน้อย ไปจนถึงไม่เจ็บเลย ตามความต้องการของคนไข้ เนื่องจากการปลูกถ่ายเซลล์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน รากเซลล์จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดีเมื่ออยู่นอกร่างกาย ก่อนนำมาปลูก เพื่อทำให้การปลูกผมใหม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผมงอกใหม่ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์แรก แฮร์เซนเตอร์ฯ จะมีบริการให้คนไข้ เข้ามาสระผม ฉายแสง ดูแลเส้นผมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
สรุป
ใครที่สนใจการปลูกผม FUE แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ แจ้งความต้องการของคนไข้ เพื่อให้แพทย์ช่วยวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ส่วนใครที่สงสัย ปลูกผม FUE ดีไหม? คำตอบคือการปลูกผม FUE ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สามารถปลูกผมได้อย่างถาวร เห็นผลจริง และให้ผลลัพธ์ที่ดี ควรค่าแก่การลงทุน
รศ. ดร. พญ. รัชต์ธร ปัญจประทีป
นายแพทย์ก้องเกียรติ ลออวงศ์
ทีมแพทย์ประจำศูนย์เส้นผมและหนังศีรษะ
โรงพยาบาลพญาไท 3
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร.02-467-1111 ต่อ 1432