เป็นที่ทราบกันดีว่าเพศหญิงจะมีความเสี่ยงกับอาการป่วยหลายอย่างมากกว่าเพศชายโดยเฉพาะโรคในระบบสืบพันธุ์หรือโรคในโพรงมดลูก จะมีความละเอียดอ่อน และมีความซับซ้อนมากเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อผู้หญิงส่วนมาก ไม่กล้าที่จะมาปรึกษาแพทย์เพราะเขินอาย ไม่กล้าที่จะไปตรวจภายใน จึงทำให้บ่อยครั้ง เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น ก็มักจะอดทน และหาวิธีแก้ปัญหาเอง รอจนทนความเจ็บปวดไม่ไหว สุดท้ายจึงทำให้การมาพบแพทย์นั้นก็อาจสายเกินไป ที่จะทำการรักษาให้หายดี ดังนั้น การทำความเข้าใจเรื่องโรคในโพรงมดลูก จึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เรารู้เท่าทันโรค และเกิดความกลัวที่มากกว่าความอาย และได้รับการรักษาได้ทันท่วงที จนหายเป็นปกติ กลับมามีชีวิตที่สดใสได้อีกครั้ง
โพรงมดลูก ส่วนสำคัญที่หลายคนมองข้าม
เยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาประมาณ 5-6.7 มิลลิเมตร เป็นผนังด้านในสุดของมดลูก ซึ่งในแต่ละรอบประจำเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกจะได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่ให้เจริญเติบโตหนาตัวขึ้น เพื่อรองรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับตัวอสุจิ เพื่อการเจริญเติบโตเป็นทารก แต่เมื่อไม่มีการฝังตัวของไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกตัว เกิดเป็นประจำเดือนขึ้น เลือดที่ออกจึงไม่ใช่เป็นการขับเลือดเสียของร่างกาย
โรคที่เกี่ยวกับโพรงมดลูกมีอะไรบ้าง
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เป็นภาวะที่มีเนื้อเยื่อลักษณะคล้ายกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญอยู่นอกมดลูก โดยมักพบที่รังไข่ ท่อนำไข่ ลำไส้ หรือผนังด้านนอกของมดลูก บางคนไม่มีอาการแสดงใด ๆ ในขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดท้องน้อย หรือมีบุตรยาก ซึ่งโรคนี้ไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่มีการรักษาหลายวิธีที่อาจช่วยลดอาการปวดหรือช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้
เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบติดเชื้อที่มักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียในเยื่อบุโพรงมดลูก โดยส่วนมากเป็นการติดเชื้อโรคที่อยู่ในช่องคลอดหรือที่ปากมดลูกที่ลุกลามขึ้นไปในโพรงมดลูกภาวะติดเชื้อในเยื่อบุโพรงมดลูกพบได้ในผู้หญิงทุกวัย แต่พบในวัยเจริญพันธุ์สูงกว่าในวัยอื่นๆ
โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
เป็นโรคของผู้ใหญ่ มักพบในอายุตั้งแต่อายุ 40 ขึ้นไป โดยพบได้สูงขึ้นในช่วงวัยหมดประจำเดือนแล้ว แต่ก็สามารถพบในผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าได้เช่นกัน อาการที่พบได้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ เช่น มีประจำเดือนบ่อย หรือมาก หรือ กะปริบกะปรอย และโดยเฉพาะมีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือนแล้ว มีตกขาว มีกลิ่นเหม็น เมื่อเป็นในระยะที่มากขึ้น ก้อนเนื้อโตจนกดเบียดทับกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีการกดเบียดทับเนื้อเยื่อประสาทในช่องท้องน้อย/อุ้งเชิงกราน ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง ช่วงล่าง(Low back pain) เรื้อรัง
การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการส่องกล้องโพรงมดลูก(Hysteroscopy)
การส่องกล้องโพรงมดลูกจะเริ่มโดยการใช้ยาระงับปวดเฉพาะที่ การดมยาสลบ จากนั้นแพทย์จะเริ่มจากใส่อุปกรณ์ถ่างขยายช่องคลอด(speculum)เข้าไปในช่องคลอด จากนั้นจะนำกล้องส่องโพรงมดลูก(hysteroscope)ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก ใส่ผ่านปากมดลูกเข้าไปในมดลูก แพทย์จะตรวจผิวเยื่อบุโพรงมดลูกและจุดที่ท่อนำไข่มาเปิดออกผ่านทางจอวีดีโอ
การรักษาโดยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องโพรงมดลูก
การผ่าตัดส่องกล้องโพรงมดลูก เป็นการใช้กล้อง ส่องผ่านทางปากมดลูกเข้าไปที่โพรงมดลูก เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติภายในโพรงมดลูก และผ่าตัดโดยไม่ต้องเปิดแผลหน้าท้องและผนังมดลูกและจะใช้อุปกรณ์เล็กๆใส่ผ่านกล้องเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อตัดเนื้อเยื่อหรือทำหัตถการที่จำเป็นต่างๆ นับเป็นการตรวจและรักษาไปในคราวเดียวกันได้อีกด้วย
จุดเด่นของการผ่าตัดด้วยวิธีการส่องกล้องโพรงมดลูก
- จะไม่มีแผลที่หน้าท้อง ไม่มีร่องรอยแผลเป็น
- แผลผ่าตัดที่มีขนาดเล็กทำให้กระทบต่ออวัยวะภายในน้อยลงมาก
- ลดปัญหาภาวะแทรกซ้อน
- ลดการเกิดพังผืดหลังผ่าตัด
- เจ็บน้อย หายไว ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นที่ รพ.หลายวัน
- หลังผ่าตัดสามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติภายใน 1-2 สัปดาห์
ความอายเป็นบ่อเกิดของการทวีความรุนแรง ที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย นอกจากการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจภายใน ตรวจโรคเฉพาะผู้หญิง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราไม่ควรชะล่าใจ เพราะแต่ละปีที่ผ่านไป วัยที่สูงขึ้น คือที่มาของความเสี่ยงโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ และก็มีเพียงแค่การตรวจภายในเท่านั้น ที่จะทำให้เราพบสาเหตุของโรคร้าย และรักษาได้ทันท่วงที
นพ.ชาญชัย เลาหประสิทธิพร
แพทย์หัวหน้าศูนย์สุขภาพหญิง
โรงพยาบาลพญาไท 3